ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) ของ BCDS ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายของบริษัทฯ ในการสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนและสังคมในพื้นที่

บริษัท Bangkok Container Depot Service (BCDS) เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการลานจัดเก็บตู้สินค้าเปล่าขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าถึงได้สะดวกและใกล้เคียงกับศูนย์กลางของกรุงเทพฯ มากที่สุด โดยตั้งอยู่บริเวณถนนปู่เจ้าสมิงพราย ใกล้กับถนนวงแหวนอุตสาหกรรมและสะพานภูมิพล BCDS ให้บริการตรวจสอบสภาพตู้สินค้า ทำความสะอาด บำรุงรักษา ซ่อมแซม รวมถึงอัพเกรดตู้สินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าของ Sahathai Terminal รวมถึงลูกค้าจากท่าเรืออื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง

สหไทย เทอร์มินอล ขอขอบคุณลูกค้าที่ร่วมสนุก สะสมคะแนนแลกของรางวัลกับโครงการ PORT MEMBER ทุกท่าน

ตั้งแต่ทาง สหไทย เทอร์มินอล ได้เริ่มโครงการ PORT MEMBER ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจและสมัครเข้าร่วมโครงการไปแล้วกว่า 900 ราย และมีผู้สะสมคะแนนครบตามจำนวนขอแลกรางวัลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการดังกล่าวเราเปิดให้ลูกค้าผู้นำเข้า ผู้ใช้บริการบรรจุ และพนักงานขับรถหัวลากได้ ร่วมสะสมคะแนนจากการจ่ายค่าภาระต่างๆ

ทางสหไทย เทอร์มินอล ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ที่ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการและสะสมคะแนนแลกของรางวัล โดยโครงการดังกล่าวยังเปิดให้ทุกท่านได้สมัครสมาชิกได้ฟรีผ่าน Line official account @sahathai พร้อมรับคะแนนพิเศษจากการสมัครสมาชิกอีก 100 – 500 คะแนน ตามประเภทสมาชิก ศึกษาขั้นตอนการสมัครเพิ่มเติมได้ ที่นี่ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line @sahathai และ Hotline 083-5407912 หรือ 083-5407917 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

สิทธิพิเศษ สำหรับสมาชิก PORT MEMBER คลิกที่นี่

สหไทย เทอร์มินอล (PORT)  หนึ่งในผู้นำการให้บริการท่าเทียบเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจรได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)

นางเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORTเปิดเผยว่า นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ PORT ได้รับการประเมินคะแนนจากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2564 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2021 : CGR) ภายใต้การดูแลของสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ซึ่งเป็นการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในระดับดีเลิศ (Excellent) หรือระดับ 5 ดาว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของคณะกรรมการบริษัท และคณะผู้บริหารในการพัฒนาและยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส และให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม  ภายใต้ปรัชญาการสร้างสมดุลระหว่างการดำเนินธุรกิจ พร้อมกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อการ “เติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืน”

อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) และมุ่งพัฒนาระดับธรรมาภิบาล (CG) มาอย่างต่อเนื่อง คำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้ และมุ่งพัฒนาระดับธรรมาภิบาล (CG) มาอย่างต่อเนื่อง คำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียในการดำเนินงานของบริษัทฯ นำไปสู่การเป็นองค์กรต้นแบบในการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจในการดำเนินงานของบริษัทฯ

ทางสหไทย เทอร์มินอล และ บริษัทในเครือ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อกำลังใจให้กับเยาวชน และ ผู้พิการ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการมอบสิ่งของบริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆ เพื่อช่วยเหลือ แบ่งปันความสุข และกระจายความช่วยเหลือผ่าน 7 มูลนิธิ ได้แก่

1. สถานสงเคราะห์เด็กบ้านตะวันใหม่

2. มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก

3. มูลนิธิเด็กเร่ร่อน

4. สมาคมสงเคราะห์เด็กกำพร้าแห่งประเทศไทย

5. สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง

6.บ้านเฟื้องฟ้า

7.บ้านพักเด็กและครอบครัว

โดยโครงการนี้ต่อเนื่องมาจากโครงการ PORT Member ที่ได้รับความสนใจจากตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออกเป็นอย่างมาก ทำให้ BBT ตัดสินใจ เริ่มโครงการ BBT Member ขึ้น และพิเศษฟรี 500 คะแนน ทันทีที่สมัครสมาชิก

สำหรับการสมัครสมาชิก ท่านสามารถทำได้ง่ายๆผ่านไลน์ @Bangkokbarge ตามขั้นตอนนี้

1.แอดไลน์ @Bangkokbarge หรือสแกน QR Code ด้านล่าง

2.ไปที่ rich menu หัวข้อ สมาชิก(member)

3.กรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อสมัครสมาชิก พร้อมยอมรับเงื่อนไขในการสมัครสมาชิกแล้วกดยืนยันการสมัคร จากนั้นท่านก็เริ่มร่วมสนุกกับโปรแกรมดีดีของเราได้เลย

ส่วนคะแนนสะสมจะมาจาก การชำระค่าใช้จ่ายทุกๆ 300 บาท ท่านจะได้ 1 คะแนน และหากชำระผ่าน QR code หรือ E-payment รับเพิ่มเป็น 1.5 คะแนนไปเลย การสะสมคะแนนก็สะดวก เพียงแค่บอกเบอร์โทรศัพท์ ณ จุดชำระเงิน

และเพื่อให้ทุกท่านได้มีโอกาสรับรางวัลใหญ่ เราจึงเปิดโอกาสให้ท่านสะสมคะแนนกันแบบไม่มีวันหมดอายุ และสามารถแจ้งความประสงค์รับของรางวัลได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าที่ดูแลท่าน เพื่อนัดวันรับของรางวัล โดยมีรายการของรางวัลดังนี้

หมายเหตุ

1.คะแนนสะสมไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้หรือของรางวัลอื่นได้

2.ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงของรางวัล โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ในกรณีที่ ของรางวัลบางรายการหมด หรือ เปลี่ยนรุ่น บริษัทฯ จะทำการชดเชย โดยการจัดของรางวัล ที่มีมูลค่าเทียบเท่าให้

3.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติมเงื่อนไขต่างๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

โดยค่าใช้จ่ายที่ชำระ ณ จุดบริการงานบรรจุ ทุก 300 บาท จะได้รับ 1 คะแนน ในกรณีที่จ่ายผ่าน QR Code หรือเงินโอนจะได้รับคะแนน 1.5 เท่า โดยคะแนนสะสมไม่มีวันหมดอายุ ทางบริษัทหวังว่าทุกท่านจะให้การตอบรับโครงการนี้กันอย่างต่อเนื่อง

“โดยโครงการนี้ถือเป็นอีกโครงการที่ยืนยันว่า Sahathai Terminal พร้อมที่จะเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรและโซลูชั่นที่สามารถตอบโจย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง”

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ผู้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำ ประสบความสำเร็จในการขอใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป (Bonded Warehouse) พร้อมทั้งได้มีการปรับปรุงพื้นที่ได้รับอนุญาตบางส่วนให้เป็นคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เพื่อให้บริการลูกค้าผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม โดยได้มีการเปิดตัวคลังสินค้าดังกล่าวไปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ณ คลังสินค้าทัณฑ์บนแห่งใหม่ ท่าเรือ Sahathai Terminal บนถนนปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ

โดย คุณบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “คลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป (Bonded Warehouse) นี้ มีลักษณะเป็นอาคารทรงสูง 6 ชั้น แต่ละชั้นมีขนาดประมาณ  2,800 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ลิฟท์ขนส่งสินค้า  สะพานปรับระดับและลานโหลดสินค้า (Loading Dock)  ลานจอดรถบริเวณด้านหน้าอาคาร ทางลาดสำหรับรถขึ้นลงอาคาร กล้องวงจรปิดทั่วทั้งบริเวณ พนักงานรักษาความปลอดภัยดูแล 24 ชั่วโมง และอีกจุดเด่นของคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป (Bonded Warehouse) นี้ คืออยู่ติดกับท่าเรือ Sahathai Terminal  ซึ่งสะดวกในการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและประหยัดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และด้วยที่ตั้งของท่าเรืออยู่ใกล้กับกรุงเทพมหานครและยังเชื่อมต่อกับสะพานภูมิพลและถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ทำให้การขนส่งสะดวกสบาย จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นจุดจัดเก็บและกระจายสินค้าสำหรับผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ”

และยังกล่าวต่อไปว่า “บริษัทได้มีการปรับปรุงพื้นที่บางส่วน ในคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป (Bonded Warehouse) ในรูปแบบ Built-to-Suit เป็นคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ให้กับลูกค้ารายหนึ่งซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม ให้กับผู้ค้าปลีก ร้านอาหาร โรงแรม และ บริษัทเอกชนในเอเชียและภูมิภาคอาเซียน และเริ่มให้บริการไปแล้วตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยโครงการนี้ถือเป็นอีกโครงการที่ยืนยันว่า Sahathai Terminal พร้อมที่จะเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรและโซลูชั่นที่สามารถตอบโจย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง”

ตามที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ซึ่งกำหนดให้เรือและท่าเรือเดินทะเลระหว่างประเทศต้องฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกันภัยคุกคามอย่างน้อย 1 ครั้ง ทุก 3 เดือน และด้วยบริษัทเป็นผู้ประกอบการท่าเรือที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล และเล็งเห็นถึงความสำคัญของการฝึกภาคปฏิบัติ เพื่อให้พนักงานความตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นกับเรือและท่าเรือ และเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นกับเรือและท่าเรือในรูปแบบต่างๆ อาทิ การลักขโมยสินค้า การก่อการร้ายสากล การแอบซ่อนลงเรือ การซุ่มโจมตี และ การก่อวินาศกรรม เป็นต้น

บริษัทจึงจัดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การฝึกซ้อมการรักษาความปลอดภัยของเรือและท่าเรือระหว่างประเทศ (ISPS Code) ให้กับพนักงานทุกไตรมาส และมีนโยบายให้พนักทุกท่านได้เข้าร่วมอบรม โดยในครั้งนี้เป็นการฝึกปฏิบัติประจำไตรมาส 1 ปี 2564 ในหัวข้อการลักลอบแอบซ่อนลงเรือ (illegal migrants and stowaways)

โดยในการจัดอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติ จากคุณธรรศ ธรรมฤทธิ์ และ คุณอรรถพล พรหมทองดี PSFO เป็นวิทยากรกิจกรรมครั้งนี้