ผู้ถือหุ้น สหไทย (PORT) พร้อมใจอนุมัติเพิ่มทุน RO ขยายธุรกิจ สร้างท่าเรือที่ 3 และลงทุนศูนย์กระจายสินค้า
เมื่อวานนี้ ( 23 เมษายน 2562 ) ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT ผู้นำธุรกิจท่าเทียบเรือเอกชนเบอร์หนึ่งในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา มีมติเห็นชอบให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 138 ล้านหุ้น มูลค่า (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อนำมาลงทุนสร้างท่าเรือแห่งที่ 3 และลงทุนโครงการศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ ต่อยอดธุรกิจ ก้าวสู่การเป็นผู้นำการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร
โดยบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 92 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering-RO) ในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 4.00 บาท โดยกำหนดจองซื้อและชำระเงินในวันที่ 17 พฤษภาคม – 24 พฤษภาคม 2562 และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 46 ล้านหุ้น เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) รุ่นที่ 1 หรือ PORT – W1 ที่บริษัทฯ จะขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในอัตราส่วน 2 หุ้นเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนต์ โดย PORT – W1 มีอายุ 3 ปี มีอัตราการใช้สิทธิวอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 6.50 บาท/หุ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติการจ่ายปันผล จากกำไรในส่วนที่ได้รับยกเว้นภาษี ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งหมด 46,000,000 บาท โดยกำหนดวันปิดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 เมษายน 2562 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562
นางเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT กล่าวว่า “ตามที่บริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจท่าเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจร เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจของบริษัท และทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างมั่นคง โดยการลงทุนสร้างท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 3 และขยายศูนย์กระจายสินค้า ทำให้บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเสนอขอเพิ่มทุน เพื่อนำมาลงทุนในโครงการต่างๆ ที่กำลังจะเริ่มดำเนินการ และยังนำมาเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทฯ ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้ทางบริษัทฯ ก็คาดว่าน่าจะเพียงพอสำหรับการขยายในระยะเวลา 3-5 ปี”
สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทฯ จะนำเงินดังกล่าวไปเพื่อใช้ลงทุนใน
(1) บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอร์มินอล จำกัด (BRT) ร่วมกับบริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P. Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลก และกลุ่มน้ำตาลมิตรผลซึ่งเป็น 1 ในผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของไทย เพื่อสร้างท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 3 รองรับการขยายตัวของการนำเข้าและส่งออกของประเทศที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ จะมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 38 ส่วนบริษัท APM Terminals จำกัด และกลุ่มมิตรผล ถือหุ้นร้อยละ 33 และ 29 ของทุนจดทะเบียนตามลำดับ ซึ่งการลงทุนใน BRT จะเพิ่มความสามารถในการให้บริการท่าเรือได้อีกประมาณ 180,000 TEUs/ปี รวมกับความสามารถในการให้บริการเดิมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยเป็น 920,000 TEUs/ปี หรือเพิ่มขึ้นราว 24%
(2) ลงทุนใน บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด ร่วมกับ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“FRASERS”) (ชื่อเดิม คือ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเนคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำการให้บริการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมของไทย โดยบริษัทฯ และ FRASERS มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 25 และร้อยละ 75 ของทุนจดทะเบียนตามลำดับ เพื่อลงทุนพัฒนา และบริหาร โครงการโลจิสติกส์พาร์ค และศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดสอดรับเทรนด์ธุรกิจยุคดิจิทัล
นางเสาวคุณ ครุจิตร ยังกล่าวเสริมว่า “ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้การสนับสนุนติดตามการบริหารงาน และเข้าร่วมการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ พร้อมทั้งข้อแนะนำเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ทำให้การประชุมในครั้งนี้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ถือหุ้นเห็นด้วยและเข้าใจแผนการทำงานที่ชัดเจนของบริษัท และให้ความเชื่อมั่นในบริษัท โดยบริษัทฯ ได้กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 และจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นจองหุ้นเพิ่มทุนได้วันที่ 17 – 24 พฤษภาคม 2562”
บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เป็นผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทยโดยให้บริการตั้งแต่
1. ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจรสำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง (Barge) รวมถึงการให้บริการบรรจุสินค้าเข้าและถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ (CFS) และซ่อมแซมทำความสะอาดตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot)
2.ธุรกิจการให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก ภายในบริเวณจังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑลบริเวณเขตพื้นที่แหลมฉบัง
3. ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้าโดยให้บริการพื้นที่ลานพักตู้คอนเทนเนอร์ และคลังจัดเก็บสินค้ากับลูกค้า ทั้งที่เป็นเขตให้บริการปกติและปลอดภาษีอากร (Free Zone) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯให้บริการแก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกกลุ่มธุรกิจ e-commerce และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม
4.ธุรกิจการให้บริการ เกี่ยวเนื่องอื่นๆ อาทิ การให้บริการ Freight Forwarding เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณฤทัยรัตน์ บูรณ์กุศล ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
โทร. 02-386-8000 ต่อ 1888
e-mail: [email protected]