กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – บริษัท สหไทย เทอร์มินอล ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือแม่น้ำชั้นนำในประเทศไทย ได้มุ่งมั่นขยายธุรกิจและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2017 นี้ ถือเป็นอีกปีสำคัญของสหไทย เทอร์มินอล ที่บริษัทฯ ได้เตรียมแผนการเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนเช่นกัน

สหไทย เทอร์มินอล ให้บริการครอบคลุมทั้งบริการท่าเทียบเรือสำหรับเรือขนส่งระหว่างประเทศและภายในประเทศ บริการขนส่งตู้สินค้าภายในประเทศทางเรือบาร์จและทางรถ บริการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ บริการนำสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ บริการคลังสินค้าทัณฑ์บน บริการคลังสินค้าทั่วไป บริการซ่อมบำรุงและจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ บริการเขตปลอดอากร และบริการมูลค่าเพิ่มอื่นๆ รวมทั้งยังมีสำนักงานดำเนินการพิธีศุลกากรในพื้นที่ท่าเรือ เรียกได้ว่าสามารถรองรับและให้บริการลูกค้าได้ทุกกลุ่มอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การเดินทางมายังสหไทย เทอร์มินอลทางถนนยังมีความสะดวกอีกด้วย เนื่องจากสหไทย เทอร์มินอลตั้งอยู่ใกล้กับถนนวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษกและสะพานภูมิพล ทำให้รถหัวลากขนส่งตู้สินค้าสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก โดยสามารถเชื่อมต่อไปยังใจกลางตัวเมืองกรุงเทพหรือไปยังจังหวัดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

ทั้งนี้ สหไทย เทอร์มินอลได้ขยายการบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครบวงจร ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า เพื่อเพิ่มความสะดวกของการให้บริการ ทั้งกับสายการเดินเรือและผู้ส่งออก รวมทั้งการมุ่งมั่นให้บริการตามมาตรฐานสากลแล้ว หัวใจสำคัญที่บุคลากรของสหไทย เทอร์มินอล ยึดมั่นและทำให้ผู้ใช้บริการวางใจในบริการ คือ การให้บริการบนพื้นฐานของความจริงใจ ซึ่งเป็นหลักการที่ คุณเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล ยึดมั่นและให้ความสำคัญมาโดยตลอด เนื่องจากคุณเสาวคุณ เชื่อมั่นว่า การติดต่อธุรกิจและการประสานงานกับลูกค้าและพันธมิตร ต้องมีความชัดเจนและตรงไปตรงมา ทุกอย่างต้องโปร่งใสและอาศัยความจริงใจเป็นหลัก การยึดมั่นดังกล่าวถือเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ สหไทย เทอร์มินอล มีพันธมิตรในอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและหลากหลาย

 

สร้างความแข็งแกร่งทางพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา สหไทย เทอร์มินอล ได้ขยายธุรกิจเพิ่มเติม โดยร่วมมือกับ บริษัท Mitsui O.S.K. Lines (MOL) สายการเดินเรือรายใหญ่ของญี่ปุ่น ในการก่อตั้งบริษัท Bangkok Barge Terminal (BBT) เพื่อให้บริการขนส่งตู้สินค้าทางน้ำโดยเรือบาร์จ เพื่อรองรับความต้องการในการขนส่งตู้สินค้าระหว่างกรุงเทพฯ และพื้นที่ปริมณฑล กับท่าเรือแหลมฉบัง ที่มีแนวโน้มจะเติบโตมากขึ้น โดยความร่วมมือดังกล่าวเป็นผลมาจากการเป็นพันธมิตรกันมาเป็นเวลานาน และการมีวิสัยทัศน์ที่เห็นตรงกันว่า การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตและมีความต้องการในการใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้ง การขนส่งตู้สินค้าทางน้ำโดยเรือบาร์จยังมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าทางรถอีกด้วย

นอกจากนี้ อีกหนึ่งความสำเร็จที่แสดงถึงความแข็งแกร่งทางด้านพันธมิตรของสหไทย เทอร์มินอล กับบริษัทต่างชาติคือ การจับมือกับ Medlog ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสายการเดินเรือ MSC ภายใต้ชื่อ Bangkok Barge Services (BBS) เพื่อให้บริการเรือบาร์จสำหรับใช้ขนส่งตู้สินค้าทางน้ำภายในประเทศ ในเส้นทางท่าเรือแหลมฉบังไปยังท่าเทียบเรือต่างๆ ในกรุงเทพฯ โดยมีการเปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2016 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของสหไทย เทอร์มินอล และแสดงให้เห็นว่า สหไทย เทอร์มินอล มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากสหไทย เทอร์มินอล มองว่า หากต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันให้ทัดเทียมกับบริษัทต่างชาติได้นั้น บริษัทฯ ต้องมองหาพันธมิตรระดับนานาชาติ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการตลาดร่วมกัน

 

เป้าหมายในอนาคต

ตลอดระยะเวลาที่เปิดให้บริการมา สหไทย เทอร์มินอลมีการวางแผนและวางรากฐานที่มั่นคงมาโดยตลอด รวมทั้งยังมีวิสัยทัศน์และมุ่งมั่นขยายธุรกิจอย่างไม่หยุดนิ่ง มีพันธมิตรในอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและพร้อมสนับสนุนช่วยเหลืออยู่ตลอด รวมทั้งยังมุ่งยกระดับธุรกิจและการให้บริการอย่างต่อเนื่อง และปี 2017 ถือเป็นอีกปีสำคัญของสหไทย เทอร์มินอล โดยบริษัทฯ ได้วางแผนที่จะขยายพื้นที่จัดเก็บตู้สินค้าภายในท่าเรือและขยายลานซ่อมบำรุงและจัดเก็บตู้สินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ และเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งอีกหนึ่งก้าวสำคัญลำดับถัดไปของบริษัท สหไทย เทอร์มินอล ยังรวมถึงแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท สหไทย เทอร์มินอลเป็นบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงาน มีความมั่นคงทางธุรกิจ และเป็นผู้นำที่พร้อมเดินหน้าและพัฒนาเพื่ออนาคตที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

 

เกี่ยวกับสหไทย เทอร์มินอล

สหไทย เทอร์มินอล เป็นบริษัทเอกชนที่เริ่มเปิดดำเนินกิจการครั้งแรก เมื่อปี 2550 โดยบริษัทฯ มีพื้นที่ในการปฏิบัติการทั้งหมด 168,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่ซ่อมบำรุงตู้คอนเทนเนอร์ สำนักงานศุลกากรภายในท่าเรือ และมีเครื่องมือประจำท่าเรือเพื่อใช้ในการยกขนสินค้าอย่างครบวงจร พร้อมบุคลากรที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญ ด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของสหไทย เทอร์มินอล ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ลูกค้าสามารถวางใจได้ว่า เรามีโซลูชั่นครบวงจรที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ โดยบริการทุกอย่างของเราเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมและความสามารถในการให้บริการที่ยืดหยุ่นอีกด้วย

* ข่าวประชาสัมพันธ์เขียนขึ้นโดย Logistics Manager เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ www.logistics-manager.com เพื่อสอบถามข้อมูลหรือบริการต่างๆ เพิ่มเติม